จูล่ง (อังกฤษ: Zhao Yun; จีนตัวเต็ม: 子龍; จีนตัวย่อ: 子龙; พินอิน: Zǐlóng) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก ชื่อจริงคือ เตียวหยุน (จีนตัวเต็ม: 趙雲; จีนตัวย่อ: 赵云; พินอิน: Zhào Yún) แม่ทัพคนสำคัญของเล่าปี่ ในยุคสามก๊กของประเทศจีน และเป็น 1 ใน 5 ขุนพลทหารเสือของเล่าปี่ ในวรรณกรรมสามก๊ก
จูล่ง ได้รับฉายาว่าเป็น "สุภาพบุรุษจากเสียงสัน" เกิดในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 2 ที่อำเภอเจินติ้ง เมืองเสียงสัน มีแซ่เตียว (จ้าว) แต่ไม่มีใครเรียกว่า เตียวจูล่ง สูงประมาณ 6 ศอก (1.89 เมตร) หน้าผากกว้างดั่งเสือ ตาโต คิ้วดก กรามใหญ่กว้างบ่งบอกถึงนิสัยซื่อสัตย์ สุภาพเรียบร้อย น้ำใจกล้าหาญ สวมเกราะสีขาว ใช้ทวนยาวเป็นอาวุธ พาหนะคู่ใจ คือ ม้าสีขาว คอยติดตามเล่าปี่ และขงเบ้ง จูล่งเป็น 1 ใน 5 ขุนพลทหารเสือที่ เล่าปี่แต่งตั้งขึ้น ประกอบด้วย จูล่ง กวนอู เตียวหุย ม้าเฉียว และฮองตง
จูล่งเดิมเดิมเป็นชาวเมืองเสียงสัน ต่อมาได้มาเป็นทหารของอ้วนเสี้ยว แต่อ้วนเสี้ยวหยาบช้า ไร้น้ำใจ จูล่งจึงหนีไปอยู่กับกองซุนจ้านเจ้าเมืองปักเป๋ง โดยที่ขณะนั้นกองซุนจ้านได้ทำศึกกับอ้วนเสี้ยว จูล่งยังได้ช่วยชีวิตกองซุนจ้านไว้แล้วสู้กับบุนทิวถึง 60 เพลง จนบุนทิวหนีไป ต่อมาจูล่งได้มีโอกาสรู้จักกับเล่าปี่ ทั้งสองต่างเลื่อมใสซึ่งกันและกัน เมื่อกองซุนจ้านฆ่าตัวตายเพราะแพ้อ้วนเสี้ยว จูล่งจึงได้ร่อนเร่พเนจรจนมาถึงเขาโงจิวสัน ซึ่งมีโจรป่ากลุ่มหนึ่งมีหุยง่วนเสียวเป็นหัวหน้า หุยง่วนเสียวคิดชิงม้าจากจูล่ง จูล่งจึงฆ่าหุยง่วนเสียวตายแล้วได้เป็นหัวหน้าโจรป่าแทน ต่อมากวนอูได้ใช้ให้จิวฉองมา ตามหุยง่วนเสียวและโจรป่าไปช่วยรบ จิวฉองเมื่อเห็นจูล่งคุมโจรป่า จึงคิดว่าจูล่งคิดร้ายฆ่าหุยง่วนเสียว จิวฉองจึงตะบันม้าเข้ารบกับจูล่ง ปรากฏว่าจิวฉองต้องกลับไปหากวนอูในสภาพเลือดโทรมกาย ถูกแทงถึง 3 แผล (สำนวนสามก๊กฉบับวณิพกของ ยาขอบ) จิวฉองเล่าว่าคนผู้นี้มีฝีมือระดับลิโป้ ดังนั้นกวนอูกับเล่าปี่จึงต้องรุดไปดูด้วยตนเอง แต่เมื่อได้พบกันจูล่งก็เล่าความจริงทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมาจูล่งก็ได้เป็นทหารเอกของเล่าปี่
จูล่งสร้างวีรกรรมครั้งสำคัญคือ ฝ่าทัพรับอาเต๊า บุตรชายของเล่าปี่ที่เกิดจากนางกำฮูหยิน ซึ่งพลัดหลงกับเล่าปี่ที่ทุ่งเตียงบันโบ๋ จูล่งทำการครั้งนี้เพียงคนเดียว ท่ามกลางทหาร และองครักษ์มากมายของโจโฉที่ยกทัพลงทางใต้หวังรวบรวมแผ่นดิน และได้ฆ่าทหารเอกและทหารเลว ของโจโฉมากมาย ตั้งแต่ 03.00 น. จนถึง 15.00 น. ของอีกวัน และบุกไปชิงตัวอาเต๊าคืนมาจากซุนฮูหยิน ที่ต้องกลของซุนกวนหวังจะดึงไปเป็นตัวประกันที่ง่อก๊ก เป็นผู้ที่ติดตามเล่าปี่ตลอด แม้จะไม่ได้สาบานเป็นพี่น้องกันเหมือน กวนอูและเตียวหุย แต่จูล่งก็เรียกกวนอูและเตียวหุยว่า "พี่สองและพี่สาม" แต่กับเล่าปี่ จูล่งจะเรียกว่า "นายท่าน" ตอนที่เล่าปี่จะสิ้นใจได้เรียก ขงเบ้งเข้าพบ และเรียกจูล่ง ทรงตรัสด้วยคำพูดว่า " ท่านกับเรานั้นต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา แต่มาบัดนี้ ชะตากรรมกำลังพรากเราสอง ขอให้ท่านนึกถึงน้ำใจเก่าก่อน ช่วยเหลือบุตรเราและท่านขงเบ้ง ฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น อัญเชิญราชวงศ์ฮั่นกลับสู่ราชธานีลกเอี๋ยงด้วย "
และหลังจากที่เล่าปี่เสียชีวิตลง จูล่งเป็นทหารสังกัดของขงเบ้ง เมื่อยามศึกก็ยังสู้ แม้ตัวเองแก่แล้ว มีครั้งหนึ่ง ก่อนรบศึกกับฝ่ายวุยก๊ก ช่วงนั้นขงเบ้งเลือก ทหารให้ไปรบ แต่กลับไม่เลือกจูล่ง เพราะขงเบ้งว่าจูล่งแก่แล้ว แต่จูล่งกลับแย้งขี้นมา จูล่งเสียชีวิตเมื่อ ค.ศ. 229 หลังจากที่จูล่งตาย ขงเบ้งได้รำพันออกมาว่า "แขนซ้ายข้าขาดแล้ว" และเป็นลมสิ้นสติไปด้วยความเสียใจ ซึ่ง ตัวละคร จูล่ง มักเป็นตัวละครที่ผู้อ่านสามก๊กชาวไทยมักจะตอบว่า ชอบที่สุดในบรรดาตัวละครทั้งหมดในเรื่อง เนื่องจากเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ ทำการโดยไม่เห็นแก่ลาภยศ
จูล่ง ได้รับฉายาว่าเป็น "สุภาพบุรุษจากเสียงสัน" เกิดในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 2 ที่อำเภอเจินติ้ง เมืองเสียงสัน มีแซ่เตียว (จ้าว) แต่ไม่มีใครเรียกว่า เตียวจูล่ง สูงประมาณ 6 ศอก (1.89 เมตร) หน้าผากกว้างดั่งเสือ ตาโต คิ้วดก กรามใหญ่กว้างบ่งบอกถึงนิสัยซื่อสัตย์ สุภาพเรียบร้อย น้ำใจกล้าหาญ สวมเกราะสีขาว ใช้ทวนยาวเป็นอาวุธ พาหนะคู่ใจ คือ ม้าสีขาว คอยติดตามเล่าปี่ และขงเบ้ง จูล่งเป็น 1 ใน 5 ขุนพลทหารเสือที่ เล่าปี่แต่งตั้งขึ้น ประกอบด้วย จูล่ง กวนอู เตียวหุย ม้าเฉียว และฮองตง
จูล่งเดิมเดิมเป็นชาวเมืองเสียงสัน ต่อมาได้มาเป็นทหารของอ้วนเสี้ยว แต่อ้วนเสี้ยวหยาบช้า ไร้น้ำใจ จูล่งจึงหนีไปอยู่กับกองซุนจ้านเจ้าเมืองปักเป๋ง โดยที่ขณะนั้นกองซุนจ้านได้ทำศึกกับอ้วนเสี้ยว จูล่งยังได้ช่วยชีวิตกองซุนจ้านไว้แล้วสู้กับบุนทิวถึง 60 เพลง จนบุนทิวหนีไป ต่อมาจูล่งได้มีโอกาสรู้จักกับเล่าปี่ ทั้งสองต่างเลื่อมใสซึ่งกันและกัน เมื่อกองซุนจ้านฆ่าตัวตายเพราะแพ้อ้วนเสี้ยว จูล่งจึงได้ร่อนเร่พเนจรจนมาถึงเขาโงจิวสัน ซึ่งมีโจรป่ากลุ่มหนึ่งมีหุยง่วนเสียวเป็นหัวหน้า หุยง่วนเสียวคิดชิงม้าจากจูล่ง จูล่งจึงฆ่าหุยง่วนเสียวตายแล้วได้เป็นหัวหน้าโจรป่าแทน ต่อมากวนอูได้ใช้ให้จิวฉองมา ตามหุยง่วนเสียวและโจรป่าไปช่วยรบ จิวฉองเมื่อเห็นจูล่งคุมโจรป่า จึงคิดว่าจูล่งคิดร้ายฆ่าหุยง่วนเสียว จิวฉองจึงตะบันม้าเข้ารบกับจูล่ง ปรากฏว่าจิวฉองต้องกลับไปหากวนอูในสภาพเลือดโทรมกาย ถูกแทงถึง 3 แผล (สำนวนสามก๊กฉบับวณิพกของ ยาขอบ) จิวฉองเล่าว่าคนผู้นี้มีฝีมือระดับลิโป้ ดังนั้นกวนอูกับเล่าปี่จึงต้องรุดไปดูด้วยตนเอง แต่เมื่อได้พบกันจูล่งก็เล่าความจริงทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมาจูล่งก็ได้เป็นทหารเอกของเล่าปี่
จูล่งสร้างวีรกรรมครั้งสำคัญคือ ฝ่าทัพรับอาเต๊า บุตรชายของเล่าปี่ที่เกิดจากนางกำฮูหยิน ซึ่งพลัดหลงกับเล่าปี่ที่ทุ่งเตียงบันโบ๋ จูล่งทำการครั้งนี้เพียงคนเดียว ท่ามกลางทหาร และองครักษ์มากมายของโจโฉที่ยกทัพลงทางใต้หวังรวบรวมแผ่นดิน และได้ฆ่าทหารเอกและทหารเลว ของโจโฉมากมาย ตั้งแต่ 03.00 น. จนถึง 15.00 น. ของอีกวัน และบุกไปชิงตัวอาเต๊าคืนมาจากซุนฮูหยิน ที่ต้องกลของซุนกวนหวังจะดึงไปเป็นตัวประกันที่ง่อก๊ก เป็นผู้ที่ติดตามเล่าปี่ตลอด แม้จะไม่ได้สาบานเป็นพี่น้องกันเหมือน กวนอูและเตียวหุย แต่จูล่งก็เรียกกวนอูและเตียวหุยว่า "พี่สองและพี่สาม" แต่กับเล่าปี่ จูล่งจะเรียกว่า "นายท่าน" ตอนที่เล่าปี่จะสิ้นใจได้เรียก ขงเบ้งเข้าพบ และเรียกจูล่ง ทรงตรัสด้วยคำพูดว่า " ท่านกับเรานั้นต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา แต่มาบัดนี้ ชะตากรรมกำลังพรากเราสอง ขอให้ท่านนึกถึงน้ำใจเก่าก่อน ช่วยเหลือบุตรเราและท่านขงเบ้ง ฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น อัญเชิญราชวงศ์ฮั่นกลับสู่ราชธานีลกเอี๋ยงด้วย "
และหลังจากที่เล่าปี่เสียชีวิตลง จูล่งเป็นทหารสังกัดของขงเบ้ง เมื่อยามศึกก็ยังสู้ แม้ตัวเองแก่แล้ว มีครั้งหนึ่ง ก่อนรบศึกกับฝ่ายวุยก๊ก ช่วงนั้นขงเบ้งเลือก ทหารให้ไปรบ แต่กลับไม่เลือกจูล่ง เพราะขงเบ้งว่าจูล่งแก่แล้ว แต่จูล่งกลับแย้งขี้นมา จูล่งเสียชีวิตเมื่อ ค.ศ. 229 หลังจากที่จูล่งตาย ขงเบ้งได้รำพันออกมาว่า "แขนซ้ายข้าขาดแล้ว" และเป็นลมสิ้นสติไปด้วยความเสียใจ ซึ่ง ตัวละคร จูล่ง มักเป็นตัวละครที่ผู้อ่านสามก๊กชาวไทยมักจะตอบว่า ชอบที่สุดในบรรดาตัวละครทั้งหมดในเรื่อง เนื่องจากเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ ทำการโดยไม่เห็นแก่ลาภยศ
ความคิดเห็น