ขงเบ้ง เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก ฉายาขงหมิง (孔明, พินอิน: Kǒngmíng) หรือ จูกัดเหลียง (อังกฤษ: Zhuge Liang; จีนตัวเต็ม: 諸葛亮; จีนตัวย่อ: 诸葛亮; พินอิน: Zhūge Liàng) นอกจากนี้ยังมีฉายาอื่นเช่นมังกรหลับ (臥龍先生) หรือ (伏龍) เป็นนักการเมืองสมัยปลายราชวงศ์ฮั่นของจีน หรือในสมัยหลังราชวงศ์ฮั่นหากกล่าวอ้างอิงตามประวัติศาสตร์
จูกัดเหลียงดำรงตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษาด้านการยุทธนาการของพระเจ้าเล่าปี่ ในตำแหน่งสมุหนายกและผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งรัฐจ๊ก รวมทั้งมีความสามารถในด้านการเมือง การทูต วิชาการ วิศวกรและได้ชื่อว่าเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นที่ยิ่งใหญ่ โดยคิดค้นหมั่นโถว ธนูไฟ โคมลอยและระบบชลประทาน
ในวรรณกรรมเรื่องสามก๊ก จูกัดเหลียงถูกยกย่องว่าเป็นผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร ได้รับฉายาจากบังเต็กกง ว่า "ฮกหลง" หมายถึงมังกรซุ่มหรือมังกรหลับ จากคำแนะนำของสุมาเต็กโช และชีซีที่หลงกลอุบายของโจโฉ จำต้องหวนกลับไปอยู่วุ่ยก๊กด้วยความจำใจ ทำให้เล่าปี่ต้อง ดั้งด้นมาเชิญตัวจูกัดเหลียงด้วยตัวเองถึงสามครั้งสามครา จูกัดเหลียงมีความรู้เป็นเลิศ รับใช้ราชวงศ์เล่าถึง 2 ชั่วอายุคน ภายหลังก่อนที่พระเจ้าเล่าปี่จะสวรรคต ได้ยกทรัพย์สมบัติและแผ่นดินของราชวงศ์ฮั่นให้แก่จูกัดเหลียง แต่จูกัดเหลียงปฏิเสธจึงฝากฝัง เล่าเสี้ยนให้ ดูแลบ้านเมืองต่อไปแต่ไม่อาจสำเร็จได้ เพราะพระเจ้าเล่าเสี้ยนหูเบา เชื่อแต่คำยุยงของขันทีฮุยโฮยกทัพไปปราบปรามชาวม่าน และได้สู้รบกับวุยก๊กหลายครั้ง
จูกัดเหลียง มีชื่อจริงว่าจูเก๋อเหลียง เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของจูเก๋อกุย ขุนนางตงฉินของพระเจ้าเหี้ยนเต้ จูกัดเหลียงมีพี่ชายและน้องชายอย่างละคนคือ จูกัดกิ๋นพี่ ชาย เป็นที่ปรึกษาของง่อก๊กและน้องชายจูเก๋อจิ๋น จูกัดเหลียงมีอุปนิสัยและความคิดที่ฉลาดปราดเปรื่อง รอบรู้สรรพวิชาอย่างแตกฉานทั้งวิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ การเมืองการปกครอง การทูต และแม้กระทั่งไสยศาสตร์ ใจคอเยือกเย็นมีเมตตา ชอบอวดอ้างและลองดีกับผู้ที่มีนิสัยกล่าวโอ้อวดตนเอง อุดมด้วยวาทะศิลป์ ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบกับชาวบ้านที่เชิงเขาโงลังกั๋ง โดยช่วยเหลือชาวบ้านในการทำนาต่าง ๆ จนเป็นที่นับถือของชาวบ้าน
จูกัดเหลียงมักจะเสวนากับผู้รู้เสมอ ๆ โดยเพื่อนร่วมวงเสวนากับเขานั้นได้แก่ ชีซี สื่อกวงเหวียน (โจ๊ะก๋งหงวน) เมิ่งกงเวย (เบงคงอุย) และซุยเป๋ง และจูกัดเหลียงมักจะยกตัวเองเทียบกับขวันต๋งและงักเย สองยอดนักปราชญ์ยุคชุนชิวและราชวงศ์ฉิน ซึ่งเพื่อน ๆ มักแปลกใจที่จูกัดเหลียงกล้ายกตนเช่นนั้น มีแต่ชีซี และซุยเป๋งเท่านั้นที่เชื่อว่าไม่ได้เป็นการยกตนเกินเลยไปเลย ยิ่งไปกว่านั้นยอดปราชญ์แห่งสามก๊กอย่างอาจารย์สุมาเต๊กโช ยังยกย่องว่าไม่เพียงแค่เปรียบได้กับขวันต๋งและงักเยเท่านั้น ยังเปรียบได้กับเจียงไทกง ผู้หนุนราชวงศ์จิวและเตียงเหลียงผู้หนุนราชวงศ์ ฮั่นอีกด้วย ทำให้รู้ว่านอกจากจูกัดเหลียงจะเป็นผู้ฉลาดปราดเปรื่องแล้ว ยังเป็นผู้มีความ จงรักภักดีเป็นอย่างมาก
จูกัดเหลียงมาเป็นที่ปรึกษาให้แก่เล่าปี่จาก การได้รับคำแนะนำจากชีซี และคำกล่าวยกย่องจูกัดเหลียงและบังทองจากสุมาเต๊กโช ซึ่งถ้าเล่าปี่ได้บุคลหนึ่งในสองนี้เป็นที่ปรึกษา จะสามารถทำการใหญ่กอบกู้แผ่นดินได้สำเร็จ โดยเล่าปี่ต้องดั้งด้นเดินทางท่ามกลางอากาศหนาวเย็น และเข้าคำนับผิดคนที่มีท่าที และการเจรจาที่ฉลาดเฉลียวมาตลอดเส้นทาง ด้วยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจูกัดเหลียง เล่าปี่มาหาจูกัดเหลียงด้วยใจศรัทธาถึงกระท่อมไม้ไผ่ ที่เขาโงลังกั๋ง ถึง 3 ครั้ง 3 คราก็ไม่พบตัวจูกัดเหลียงแม้แต่ครั้งเดียว
จูกัดเหลียงเป็นผู้ชอบลองนิสัยของบุคคล ยิ่งเห็นเล่าปี่ศรัทธาในตนยิ่งนัก จึงแกล้งลองใจเล่าปี่ด้วยการหลบออกจากบ้าน และแกล้งให้เด็กรับใช้แจ้งแก่เล่าปี่ว่าตนไม่อยู่บ้าน และครั้งสุดท้ายบอกว่าตนนอนหลับ เล่าปี่ก็ไม่ละความพยายาม ในความอุตสาหะที่จะเชิญตัวจูกัดเหลียงไปอยู่ด้วย เมื่อจูกัดเหลียงนอนหลับ จึงมายืนสงบที่ปลายเท้าด้วยกิริยาสำรวมรอคอยจน กระทั่งจูกัดเหลียงตื่น และได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เล่าปี่เอ่ยปากเชิญจูกัดเหลียงไปอยู่ด้วยกันเพื่อกิจการบ้านเมือง จูกัดเหลียงเห็นความมานะพยายามของเล่าปี่ รวมทั้งอุปนิสัยใจคอ และการเป็นคนอาภัพวาสนา จึงยอมไปอยู่ด้วย ซึ่งขณะนั้นจูกัดเหลียงมีอายุได้เพียง 26 ปีเท่านั้น
เมื่อจูกัดเหลียงไปอยู่ด้วยกับเล่าปี่ ซึ่งได้รับการเอาใจใส่ดูแลและให้การเคารพนับถือเช่นอาจารย์ ทำให้จูกัดเหลียงมิได้เป็นที่ยอมรับของบรรดานายทหารจ๊กก๊ก รวมทั้งกวนอูและเตียวหุยด้วย แต่เมื่อจูกัดเหลียงได้แสดงฝีมือให้ปรากฏ ด้วยการทลายทัพของแฮหัวตุ้น แม่ทัพเอกของโจโฉที่เนินพกบ๋องแล้ว จูกัดเหลียงก็กลายเป็นที่นับถือ และเลื่องลือถึงความสามารถอันปราดเปรื่อง
จูกัดเหลียงดำรงตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษาด้านการยุทธนาการของพระเจ้าเล่าปี่ ในตำแหน่งสมุหนายกและผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งรัฐจ๊ก รวมทั้งมีความสามารถในด้านการเมือง การทูต วิชาการ วิศวกรและได้ชื่อว่าเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นที่ยิ่งใหญ่ โดยคิดค้นหมั่นโถว ธนูไฟ โคมลอยและระบบชลประทาน
ในวรรณกรรมเรื่องสามก๊ก จูกัดเหลียงถูกยกย่องว่าเป็นผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร ได้รับฉายาจากบังเต็กกง ว่า "ฮกหลง" หมายถึงมังกรซุ่มหรือมังกรหลับ จากคำแนะนำของสุมาเต็กโช และชีซีที่หลงกลอุบายของโจโฉ จำต้องหวนกลับไปอยู่วุ่ยก๊กด้วยความจำใจ ทำให้เล่าปี่ต้อง ดั้งด้นมาเชิญตัวจูกัดเหลียงด้วยตัวเองถึงสามครั้งสามครา จูกัดเหลียงมีความรู้เป็นเลิศ รับใช้ราชวงศ์เล่าถึง 2 ชั่วอายุคน ภายหลังก่อนที่พระเจ้าเล่าปี่จะสวรรคต ได้ยกทรัพย์สมบัติและแผ่นดินของราชวงศ์ฮั่นให้แก่จูกัดเหลียง แต่จูกัดเหลียงปฏิเสธจึงฝากฝัง เล่าเสี้ยนให้ ดูแลบ้านเมืองต่อไปแต่ไม่อาจสำเร็จได้ เพราะพระเจ้าเล่าเสี้ยนหูเบา เชื่อแต่คำยุยงของขันทีฮุยโฮยกทัพไปปราบปรามชาวม่าน และได้สู้รบกับวุยก๊กหลายครั้ง
จูกัดเหลียง มีชื่อจริงว่าจูเก๋อเหลียง เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของจูเก๋อกุย ขุนนางตงฉินของพระเจ้าเหี้ยนเต้ จูกัดเหลียงมีพี่ชายและน้องชายอย่างละคนคือ จูกัดกิ๋นพี่ ชาย เป็นที่ปรึกษาของง่อก๊กและน้องชายจูเก๋อจิ๋น จูกัดเหลียงมีอุปนิสัยและความคิดที่ฉลาดปราดเปรื่อง รอบรู้สรรพวิชาอย่างแตกฉานทั้งวิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ การเมืองการปกครอง การทูต และแม้กระทั่งไสยศาสตร์ ใจคอเยือกเย็นมีเมตตา ชอบอวดอ้างและลองดีกับผู้ที่มีนิสัยกล่าวโอ้อวดตนเอง อุดมด้วยวาทะศิลป์ ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบกับชาวบ้านที่เชิงเขาโงลังกั๋ง โดยช่วยเหลือชาวบ้านในการทำนาต่าง ๆ จนเป็นที่นับถือของชาวบ้าน
จูกัดเหลียงมักจะเสวนากับผู้รู้เสมอ ๆ โดยเพื่อนร่วมวงเสวนากับเขานั้นได้แก่ ชีซี สื่อกวงเหวียน (โจ๊ะก๋งหงวน) เมิ่งกงเวย (เบงคงอุย) และซุยเป๋ง และจูกัดเหลียงมักจะยกตัวเองเทียบกับขวันต๋งและงักเย สองยอดนักปราชญ์ยุคชุนชิวและราชวงศ์ฉิน ซึ่งเพื่อน ๆ มักแปลกใจที่จูกัดเหลียงกล้ายกตนเช่นนั้น มีแต่ชีซี และซุยเป๋งเท่านั้นที่เชื่อว่าไม่ได้เป็นการยกตนเกินเลยไปเลย ยิ่งไปกว่านั้นยอดปราชญ์แห่งสามก๊กอย่างอาจารย์สุมาเต๊กโช ยังยกย่องว่าไม่เพียงแค่เปรียบได้กับขวันต๋งและงักเยเท่านั้น ยังเปรียบได้กับเจียงไทกง ผู้หนุนราชวงศ์จิวและเตียงเหลียงผู้หนุนราชวงศ์ ฮั่นอีกด้วย ทำให้รู้ว่านอกจากจูกัดเหลียงจะเป็นผู้ฉลาดปราดเปรื่องแล้ว ยังเป็นผู้มีความ จงรักภักดีเป็นอย่างมาก
จูกัดเหลียงมาเป็นที่ปรึกษาให้แก่เล่าปี่จาก การได้รับคำแนะนำจากชีซี และคำกล่าวยกย่องจูกัดเหลียงและบังทองจากสุมาเต๊กโช ซึ่งถ้าเล่าปี่ได้บุคลหนึ่งในสองนี้เป็นที่ปรึกษา จะสามารถทำการใหญ่กอบกู้แผ่นดินได้สำเร็จ โดยเล่าปี่ต้องดั้งด้นเดินทางท่ามกลางอากาศหนาวเย็น และเข้าคำนับผิดคนที่มีท่าที และการเจรจาที่ฉลาดเฉลียวมาตลอดเส้นทาง ด้วยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจูกัดเหลียง เล่าปี่มาหาจูกัดเหลียงด้วยใจศรัทธาถึงกระท่อมไม้ไผ่ ที่เขาโงลังกั๋ง ถึง 3 ครั้ง 3 คราก็ไม่พบตัวจูกัดเหลียงแม้แต่ครั้งเดียว
จูกัดเหลียงเป็นผู้ชอบลองนิสัยของบุคคล ยิ่งเห็นเล่าปี่ศรัทธาในตนยิ่งนัก จึงแกล้งลองใจเล่าปี่ด้วยการหลบออกจากบ้าน และแกล้งให้เด็กรับใช้แจ้งแก่เล่าปี่ว่าตนไม่อยู่บ้าน และครั้งสุดท้ายบอกว่าตนนอนหลับ เล่าปี่ก็ไม่ละความพยายาม ในความอุตสาหะที่จะเชิญตัวจูกัดเหลียงไปอยู่ด้วย เมื่อจูกัดเหลียงนอนหลับ จึงมายืนสงบที่ปลายเท้าด้วยกิริยาสำรวมรอคอยจน กระทั่งจูกัดเหลียงตื่น และได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เล่าปี่เอ่ยปากเชิญจูกัดเหลียงไปอยู่ด้วยกันเพื่อกิจการบ้านเมือง จูกัดเหลียงเห็นความมานะพยายามของเล่าปี่ รวมทั้งอุปนิสัยใจคอ และการเป็นคนอาภัพวาสนา จึงยอมไปอยู่ด้วย ซึ่งขณะนั้นจูกัดเหลียงมีอายุได้เพียง 26 ปีเท่านั้น
เมื่อจูกัดเหลียงไปอยู่ด้วยกับเล่าปี่ ซึ่งได้รับการเอาใจใส่ดูแลและให้การเคารพนับถือเช่นอาจารย์ ทำให้จูกัดเหลียงมิได้เป็นที่ยอมรับของบรรดานายทหารจ๊กก๊ก รวมทั้งกวนอูและเตียวหุยด้วย แต่เมื่อจูกัดเหลียงได้แสดงฝีมือให้ปรากฏ ด้วยการทลายทัพของแฮหัวตุ้น แม่ทัพเอกของโจโฉที่เนินพกบ๋องแล้ว จูกัดเหลียงก็กลายเป็นที่นับถือ และเลื่องลือถึงความสามารถอันปราดเปรื่อง
ความคิดเห็น