Out of time and options, Kongming was forced to bluff at Xicheng. He tricked an army of 150,000 Wei by leaving the city gates open and caimly playing the zither.
เรื่องราวตอนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พระเจ้าเล่าปี่สิ้นพระชนม์แล้ว ขงเบ้งกำราบปราบปรามกบฏภาคใต้เสร็จ จึงนำทัพเข้าตีแคว้นเว่ยเป็นครั้งแรก รุกลึกเข้าไปในดินแดนเว่ย จ่อใกล้เมืองหลวงเข้าไปทุกที สุมาอี้แม่ทัพใหญ่ฝ่ายเว่ยวางแผนรับพลางถอย กับกองทัพหน้าของขงเบ้ง แต่เคลื่อนกำลังพลส่วนใหญ่อ้อมตลบหลังไปยึดจุดยุทธศาสตร์เกเต๋ง
เมื่อสูญเสียเกเต๋งซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงอาหาร และเส้นทางถอยของกองทัพขงเบ้ง ก็ตกอยู่ในกำมือของข้าศึก ทำให้การรุกของกองทัพใหญ่ส่วนหน้าต้องหยุดชะงักลง และจำเป็นต้องถอยทัพ
การถอยทัพต้องใช้เส้นทางหลายเส้นทาง โดยขงเบ้งคุมทัพรั้งท้าย มีกำลังพลเพียงน้อยนิด และไปพักค้างอยู่ที่เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง สุมาอี้ทราบข่าวว่าขงเบ้งคุมกองหลังล่าถอยมาที่เมืองนี้ จึงยกกองทัพสิบหมื่นตามมา หมายจับเอาตัวขงเบ้งให้จงได้ สามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ระบุว่ากำลังพลเปรียบเทียบกันแล้ว กองทัพสุมาอี้ “เป็นอันมาก ดังหนึ่งจะเหยียบเมืองเสีย”
ขงเบ้งเข้าตาคับขัน หนีก็ไม่ทัน สู้ก็ไม่ได้ จึงจำใช้อุบายเมืองร้าง สั่งให้เปิดประตูเมืองทั้งสี่ด้าน ให้คนแก่และทหารสิบสี่สิบห้าคนออกไปทำทีกวาดขยะที่หน้าประตูเมือง ขงเบ้งแต่งตัวแบบนักพรตในลัทธิเต๋า สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน ขึ้นไปนั่งตีขิมบนกำแพงเมือง มีเด็กน้อยสองคน คนหนึ่งถือธงสุริยัน อีกคนหนึ่งถือธงจันทรา ตั้งกระถางธูปใหญ่ จุดธูปใหญ่ปักไว้สามดอกบนโต๊ะข้างหน้า ถัดมาเป็นเตาเผากำยาน ควันกำยานพวยพุ่งโชยกลิ่นหอมเย็นลึกลับ
กองทัพหน้าสุมาอี้เคลื่อนมาถึงแล้วเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็ชะงักอยู่ในระยะห่างประตูเมือง สุมาอี้ขี่ม้ามาถึงกองหน้าแล้วออกไปยืนพินิจพิเคราะห์ดู เห็นเหตุการณ์เช่นนั้นก็รำลึกถึงกลในพิชัยสงครามที่ว่าน้อยแกล้งทำเป็นมาก มากแกล้งทำเป็นน้อย ไม่มีแสร้งทำเป็นมี มีแสร้งทำเป็นไม่มีแล้ว ก็คิดว่าขงเบ้งคงซุ่มทหารแล้วลวงให้รุกตีเข้าไปในเมือง จึงแสร้งทำเป็นไม่มีทหาร
โยธาฮาเฮบ้างเสสรวล
ขับครวญตามภาษาอัชฌาสัย
ร้องเป็นลำนำทำนองใน
เรื่องขงเบ้งเมื่อใช้อุบายกล
ขี้นไปนั่งบนกำแพงแกล้งตีขิม
พยักยิ้มให้ข้าศึกนึกฉงน
ไพรีมิได้แจ้งแห่งยุบล
ให้เลิกทัพกลับพลรีบหนีไป
สามสุมากล้าศึกนึกฉงน
คร้ามในกลขงเบ้งเก่งใจหาย
เคยเสียทัพยับแทบตัวตาย
สุมาอี้นึกหน่ายฉงนความ
ความคิดเห็น